This is default featured slide 1 title

Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.This theme is Bloggerized by Lasantha Bandara - Premiumbloggertemplates.com.

This is default featured slide 2 title

Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.This theme is Bloggerized by Lasantha Bandara - Premiumbloggertemplates.com.

This is default featured slide 3 title

Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.This theme is Bloggerized by Lasantha Bandara - Premiumbloggertemplates.com.

This is default featured slide 4 title

Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.This theme is Bloggerized by Lasantha Bandara - Premiumbloggertemplates.com.

This is default featured slide 5 title

Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.This theme is Bloggerized by Lasantha Bandara - Premiumbloggertemplates.com.

วันจันทร์ที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2566

บันทึกเดินทาง St. Isaacs Cathedral(St. Petersburg)(Russia)

 👮วิหารเซนต์ไอแซค St. Isaacs Cathedral, St. Petersburg

👬อาสนวิหารนักบุญไอแซค (รัสเซีย: Исаа́киевский Собо́р) เป็นอาสนวิหารของศาสนจักรออร์โธดอกซ์รัสเซีย ตั้งอยู่ในนครเซนต์ปีเตอส์เบิร์กของประเทศรัสเซีย อาสนวิหารนักบุญไอแซคเป็นอาสนวิหารออร์โธดอกซ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก และยังเป็นอาสนวิหารคริสต์ที่ใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลก ตั้งชื่อตามนักบุญไอแซคแห่งดัลเมเชีย ผู้เป็นนักบุญองค์อุปถัมภ์ของพระเจ้าซาร์ปีเตอร์มหาราช ซึ่งทรงเสด็จพระราชสมภพตรงกับวันสมโภชฉลองนักบุญไอแซค 

👮อาสนวิหารนี้ใช้เวลาสร้างถึง 4 ทศวรรษตั้งแต่ปี 1818 ถึง 1858 ตัวอาคารมีสถาปัตยกรรมแบบฟื้นฟูคลาสสิก ออกแบบโดยสถาปนิกชาวฝรั่งเศส โอกุสต์ เดอ มงแฟร์ร็อง ผู้ซึ่งร่ำเรียนมาจากหอศิลป์ของ ชาร์ล แปร์ซิเยร์ นักออกแบบคนโปรดของจักรพรรดินโปเลียนที่ 1 แห่งฝรั่งเศส(ขอบคุณที่มาจากhttps://th.wikipedia.org/wiki)




💂วิหารแห่งนี้ตั้งอยู่ในทำเลที่โดดเด่นท่ามกลางภูมิทัศน์ของนครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก และทิวทัศน์ที่มองจากวิหารแห่งนี้ก็น่าตื่นตะลึงเฉกเช่นเดียวกับการตกแต่งภายในที่มีความเก่าแก่St. Isaac’s Cathedral ซึ่งมีหลังคาโดมสีทองตระหง่าน 



💂เป็นสถานที่สำคัญที่ต้องมาชื่นชม และเป็นสัญลักษณ์อันโดดเด่นของนครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก วิหารแห่งนี้ ซึ่งเป็นศาสนสถานแห่งสำคัญมานานนับหลายร้อยปี เป็นสถานที่ดึงดูดใจนักท่องเที่ยวผู้มาเยือนนครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กมากที่สุดในปัจจุบัน 



💂สำรวจการตกแต่งอันสวยงามอลังการ และถ่ายภาพจากจุดชมวิวชั้นเลิศแม้ว่าวิหารแห่งนี้จะเป็นที่รู้จักทั่วโลกในด้านโครงสร้างโออ่าสง่างามอย่างที่เห็นในปัจจุบัน แต่แท้จริงแล้ว วิหารแห่งนี้ได้ผ่านการก่อสร้างใหม่มานับครั้งไม่ถ้วนในช่วงประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 300 ปีของวิหาร 


💂โครงสร้างหลังแรกที่สร้างขึ้นจากไม้นั้นพังทลายลงเนื่องจากน้ำท่วม และโครงสร้างหลังถัดมาก็โดนไฟไหม้ หลังจากนั้น การสวรรคตของจักรพรรดินีแคทเธอรีนที่ 2 และจักรพรรดิพอลที่ 1 องค์อุปถัมภ์ของวิหารนี้ รวมไปถึงการเสียชีวิตของอันโตนีโอ รีนัลดี สถาปนิกผู้ออกแบบ ได้ส่งผลให้วิหารแห่งนี้ทรุดโทรมอย่างหนัก ออกุสเต มอนแฟร์แรนด์ สถาปนิกชาวฝรั่งเศส ได้เข้ามารับหน้าที่แทน 



💂และวิหารที่เห็นในปัจจุบันก็ได้ก่อสร้างแล้วเสร็จในช่วงระหว่างปี 1818 ถึง 1848มองหลังคาโดมโดดเด่นของวิหาร ซึ่งเคลือบทองคำล้ำค่าหนักกว่า 100 กิโลกรัม โครงสร้างภายนอกส่วนอื่นๆ ของวิหารแห่งนี้ก็น่าประทับใจเช่นเดียวกัน ยืนตรงทางเข้าที่มีหลังคาโค้งข้างเสาแกรนิตสีแดงใหญ่โตโอ่อ่า 


💂ซึ่งเสาแต่ละต้นมีน้ำหนักมากถึง 80 ตัน อาคารวิหารยังตกแต่งด้วยหินอ่อนงดงามสง่า และผนังแกรนิตก็ประดับด้วยหินแวววาวทางเข้าที่มีหลังคาโค้งประดับประดาด้วยหน้ามุขรูปหล่อทองแดงประณีตงดงาม ซึ่งสลักปั้นโดย Ivan Vitali และ Francois Lemaire มองหาภาพสะท้อนเรื่องราวการฟื้นคืนชีพของพระเยซูบนหน้ามุขด้านทิศเหนือ และภาพของนักบุญไอแซคกำลังประทานพรแก่จักรพรรดิธีโอโดเซียสที่หน้ามุขด้านทิศตะวันตกเข้าไปด้านในวิหาร ซึ่งตกแต่งด้วยงานวิจิตรศิลป์จำนวนมากมายนับไม่ถ้วน สำรวจภาพวาดพระนางมารีย์พรหมจารีพร้อมเหล่าบริวารสิ่งมีชีวิตบนสรวงสวรรค์ ซึ่งมีขนาดใหญ่ถึง 800 ตารางเมตร จากฝีมือของ Karl Briullov 


💂วิหารยังมีผลงานที่สะท้อนภาพการพิพากษาครั้งสุดท้าย ซึ่งสื่อความหมายถึงพระเยซูคริสต์ที่กำลังมองลงมายังศาสนิกชนที่มายังโบสถ์ด้วยปีนบันได 300 ขั้นเพื่อขึ้นไปยังระเบียงของวิหาร และชื่นชมทิวทัศน์งดงามของส่วนอื่นๆ ของเมือง ทัศนียภาพนั้นตระการตามากจนหลายคนมายังวิหารแห่งนี้เพื่อชมทิวทัศน์นี้โดยเฉพาะนั่งรถไฟใต้ดินไปยังสถานี Admiralteyskaya และจากที่นั่น เดินไปยัง St. Isaac’s Cathedral ได้โดยง่าย ปัจจุบัน วิหารแห่งนี้ไม่ค่อยจัดพิธีทางศาสนา แต่เปิดให้เข้าชมทุกวัน ยกเว้นวันพุธ มีค่าเข้าชมโบสถ์และระเบียงแยกต่างหาก(ขอบคุณที่มาจากhttps://www.expedia.co.th/St-Isaacs-Cathedral-St-Petersburg-City-Centre.d6057699.Place-To-Visit)

















*゚・✿..:* *.:。✿*゚・•*.:✿✲-•(¯`°.•°•.* * .•°•.°´¯)*¤°• •:.:* *.:。✿*¨゚✎・ .






บันทึกเดินทาง Church of the Savior on Blood (Russia)


 💂Church of the Resurrection of Christ (St. Petersburg)

👭โบสถ์แห่งหยดเลือด

👮โบสถ์แห่งนี้เคยถูกใช้งานมาแล้วทุกด้านไม่ว่าจะเป็นคลังเก็บของไปจนถึงเป็นที่เก็บกองขยะ แต่ก็ได้หวนคืนกลับมามีความงดงามดังเดิมในฐานะสิ่งปลูกสร้างทางศาสนาชั้นนำแห่งหนึ่งของเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กโบสถ์แห่งหยดพระโลหิตพระผู้ไถ่ (Church of the Savior on the Spilled Blood) หรือในชื่ออย่างเป็นทางการว่าโบสถ์แห่งการคืนพระชนม์ของพระเยซู 

💂โบสถ์แห่งหยดเลือด (Church of the Savior on Spilled Blood) หรืออีกเรียกชื่อว่า โบสถ์แห่งการคืนชีพ ตั้งอยู่ริมคลอง Griboedov เริ่มต้นก่อสร้างเมื่อศตวรรษที่ 17 ใช้เวลาก่อนสร้างยาวนานว่า 20 ปี สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์ที่พระเจ้าอเล็กซานเดอร์ที่ 3 สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงพระบิดา หรือพระเจ้าอเล็กซานเดอร์ที่ 2 ซึ่งถูกลอบปลงพระชนม์บริเวณนี้ ในปี ค.ศ. 1881 ภายในตกแต่งอย่างวิจิตรบรรจงด้วยฝีมือจิตรกรกว่า 30 คน ตัวโบสถ์เป็นงานศิลปะแบบรัสเซียดั้งเดิม ประดับประดาด้วยโมเสจพร้อมกับรูปภาพโมเสจขนาดใหญ่ยักษ์

👮ที่อยู่: เมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ประเทศรัสเซีย

💂วิธีการเดินทาง: เดินทางโดยเมโทรสายสีฟ้า ลงสถานี NEVSKY PROSPEKT

ช่วงเวลาที่ควรไป: ช่วงเดือนพฤษภาคม อากาศช่วงนี้จะเย็นสบาย

เวลาเปิด-ปิด: 10:30 - 18:00 หยุดวันพุธ

ค่าเข้าชม: ราคาตั๋ว 250 รูเบิล สามารถซื้อตั๋วได้จากตู้อัตโนมัติบริเวณทางเข้า

วีซ่า: เที่ยวรัสเซียไม่เกิน 30 วัน ไม่ต้องขอวีซ่า แต่ถ้าต้องการอยู่มากกว่า 30 วัน ต้องยื่นขอวีซ่าด้วยตนเอง

(ขอบคุณที่มาจากhttps://www.govivigo.com/ideas/397-russia)

👫โบสถ์แห่งหยดเลือด ที่รัสเซีย(Church of the Savior on Spilled Blood)


👮มีการตกแต่งด้วยกระเบื้องโมเสกมากมาย นักท่องเที่ยวสามารถชื่นชมการตกแต่งอันวิจิตรและมีสีสันสดใส พร้อมเรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์อันน่าเศร้าเบื้องหลังสถาปัตยกรรมอันน่าทึ่งแห่งนี้มาเยี่ยมชมโบสถ์แห่งนี้และยืนบนจุดที่อเล็กซานเดอร์ที่ 2 ถูกลอบปลงพระชนม์ด้วยระเบิดโดยกลุ่มก่อการร้ายชื่อ People's Will ในปี 1881 



👮โบสถ์ได้รับการสร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์สถานแก่อเล็กซานเดอร์ที่ 2 โดยพระราชโอรสของพระองค์ อเล็กซานเดอร์ที่ 3 การตกแต่งด้วยกระเบื้องโมเสกอย่างวิจิตรเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้โบสถ์แห่งนี้ใช้เวลาก่อสร้างยาวนานตั้งแต่ปี 1883 ถึงปี 1907 หลังการปฏิวัติรัสเซีย 


👮โบสถ์แห่งนี้ก็ได้เสื่อมโทรมลงและถูกนำมาใช้เป็นที่เก็บกองขยะและคลังเก็บของในเวลาต่อมา แต่ก็โชคดีที่หลังจากนั้นได้มีการเริ่มบูรณะโบสถ์แห่งนี้ในช่วงเริ่มต้นทศวรรษ 1970 ซึ่งมีการใช้เงินไปหลายล้านรูเบิลขณะเดินรอบตัวโบสถ์ (ขอบคุณที่มาจากhttps://www.expedia.co.th/Church-Of-The-Savior-On-Spilled-Blood-St-Petersburg-City-Centre.d6066725.Place-To-Visit)





👮นักท่องเที่ยวจะสังเกตเห็นหลังคาโดมที่โดดเด่นห้าหลัง โดยสองหลังมีการออกแบบเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัสสามมิติ และหนึ่งหลังขดเป็นเกลียวขึ้นสู่ท้องฟ้า ที่ด้านบนหลังคาโดมประดับด้วยกางเขนทอง ซึ่งเป็นลักษณะที่โดดเด่นอีกประการของโบสถ์ที่งดงามแห่งนี้ สถาปนิก อัลเฟรด ปาร์ลันด์ ได้หยิบยืมองค์ประกอบต่างๆ มากจากมหาวิหารเซนต์เบซิลแบบบาโรกของเมืองมอสโก ซึ่งมีความหรูหราฟู่ฟ่าไม่แพ้กันใช้เวลาชื่นชมรายละเอียดของกระเบื้องโมเสกที่ประดับอยู่บนผนังบนพื้นที่รวมกว่า 7,500 ตารางเมตร 

👮โดยมีการแสดงภาพในหลากหลายสไตล์ทางศิลปะ รวมถึงแบบสมัยใหม่นิยมและแบบไบแซนไทน์ กระเบื้องโมเสกอันวิจิตรเหล่านี้แสดงเรื่องราวต่างๆ จากคัมภีร์ไบเบิล ลองมองหาภาพพระเยซูทรงถือพระวรสาร ซึ่งถอดแบบมาจากงานของจิตรกร นิโคไล ฮาร์ลามอฟ เมื่อมองไปที่บนหลังคาโดมของโบสถ์ นักท่องเที่ยวจะสามารถมองเห็นพระคริสต์ทอดพระเนตรลงสู่โบสถ์เบื้องล่าง นอกจากนี้ ยังสามารถพบกับภาพของ อเล็กซานเดอร์ เนฟสกี วีรบุรุษคนสำคัญของทั้งเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กและรัสเซียทั้งประเทศ ในภาพโมเสกอันยิ่งใหญ่ภาพหนึ่งได้อีกด้วยอย่าลืมแวะชมอนุสรณ์แก่อเล็กซานเดอร์ที่ 2 ที่งดงาม ซึ่งตั้งอยู่บนจุดที่พระองค์สิ้นพระชนม์ อนุสรณ์แห่งนี้ทำมาจากหินแจสเพอร์เป็นส่วนใหญ่ โดยประดับไปด้วยอัญมณีที่งดงาม เช่น บุษราคัม และลาซูไรต์ และตกแต่งด้วยกระเบื้องโมเสกมากมายที่แสดงสัญลักษณ์ทางศาสนานักท่องเที่ยวสามารถเดินไปยังโบสถ์แห่งหยดพระโลหิตพระผู้ไถ่ได้จากถนน เนฟสกี ปรอสเปคต์ (Nevsky Prospekt) และสถานีรถไฟใต้ดิน กอสตินี ดวอร์ (Gostiny Dvor) ในบริเวณใกล้เคียง โบสถ์เปิดให้เข้าชมทุกวัน ยกเว้นวันพุธ และมีการคิดค่าธรรมเนียมในการเข้าชม

(ขอบคุณที่มาจากhttps://www.expedia.co.th/Church-Of-The-Savior-On-Spilled-Blood-St-Petersburg-City-Centre.d6066725.Place-To-Visit)



















*゚・✿..:* *.:。✿*゚・•*.:✿✲-•(¯`°.•°•.* * .•°•.°´¯)*¤°• •:.:* *.:。✿*¨゚✎・ .